“อีลอน มัสก์” เผย ถ้าซื้อทวิตเตอร์สำเร็จ จะปรับลดพนักงาน 75%

อีลอน มัสก์ มีแผนการจะปรับลดปริมาณบุคลากรของบริษัท “ทวิตเตอร์” ลงมากถึง 75% ถ้าเกิดการค้าขายในวันศุกร์หน้าเป็นไปอย่างเป็นระเบียบ

ภายหลังที่ อีลอน มัสก์ เจ้าพ่อเทคโนโลยีผู้จัดตั้งเทสลาและก็สเปซเอ็กซ์ ประกาศกลับมาเข้าซื้อกิจการค้า “ทวิตเตอร์” อีกทีในราคาเดิม 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น รวมราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) ปัจจุบัน เจ้าตัวเผยกับนักลงทุนว่า เขามีแผนสำหรับการจะปรับลดปริมาณบุคลากรของบริษัท “ทวิตเตอร์” ลงมากถึง 75% ข่าวไม่ดีสำหรับบุคลากรทวิตเตอร์นี้ จะมีผลให้บริษัทเหลือบุคลากรไม่ถึง 2,000 คนจากเดิมที่มีอยู่ราว 7,500 คน แผนนี้แสดงถึงความเคลื่อนไหวสุดขั้วที่อีลอน มัสก์ จะเอามาสู่ทวิตเตอร์ ท่ามกลางความท้าสำหรับในการทำให้บริษัทนี้มีผลกำไรมากยิ่งขึ้น เพราะเหตุว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ไม่เคยได้รับกำไรได้เท่าขนาดยักษ์ใหญ่โซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นอย่าง เมตา (Meta) หรือ สแนป (Snap) เลย อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ว่า อีลอน มัสก์ จะเข้าซื้อธุรกิจหรือเปล่า ทางทวิตเตอร์เองก็มีแผนในการปรับลดบุคลากรอยู่แล้ว เนื่องจากว่าธุรกิจที่ชะลอตัวอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อเดือน เดือนกรกฎาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ก็เพิ่งจะประกาศชะลอการจ้างแรงงานใหม่ นี่ได้ผลสำเร็จจากวิกฤตเศรษฐกิจในวงกว้างของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งหลาย บริษัทเว้นเสียแต่ทวิตเตอร์เองก็ได้ประกาศเลิกว่าจ้างและก็หยุดหรือชะลอการว่าจ้างเหมือนกัน

ธุรกิจ15-10-65

ข้อมูลที่ได้รับมาจากเอกสารของบริษัทแล้วก็จากการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง บอกว่า แต่เดิม คณะผู้บริหารของทวิตเตอร์ในขณะนี้มีแผนสำหรับการจะลดเงินลงทุนสำหรับในการว่าจ้างบุคลากรลง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 หมื่นล้านบาท) ด้านในปลายปีหน้า หรือลดบุคลากรลงราว 25% รวมทั้งแผนมีแผนการที่จะลดทุนด้านส่วนประกอบเบื้องต้นที่สำคัญ เป็นต้นว่า ระบบฐานข้อมูลที่ทำให้แพลตฟอร์มรองรับผู้ใช้มากยิ่งกว่า 200 ล้านคนภายในวันแล้ววันเล่าได้ ฯลฯ รายงานดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเป็นคำชี้แจงในตัวว่า เพราะอะไรทวิตเตอร์ก็เลยขะมักเขม้นสำหรับการขายกิจการค้าให้กับอีลอน มัสก์ กล่าวได้ว่าเป็น “ตั๋วทองคำ” ให้กับบริษัทอย่างยิ่งจริงๆ อย่างไรก็แล้วแต่ การปรับลดบุคลากรคาดว่าจะส่งผลเสียต่อทวิตเตอร์อย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการควบคุมรายละเอียดที่เป็นโทษและก็การดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งเป็นจุดที่ทวิตเตอร์ถูกจู่โจมโดยตลอด เอ็ดวิน เฉิน นักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูล ซึ่งเคยดูแลเรื่องสแปมรวมทั้งเมตริกของทวิตเตอร์ บอกว่า ผลพวงของการเลิกว่าจ้างดังที่ได้กล่าวมาแล้วคงจะเห็นได้ชัดในทันทีทันใด หากแม้ส่วนตัวเขาขะมั่นใจว่าทวิตเตอร์มีบุคลากรมากจนเกินไป แม้กระนั้นกลยุทธ์ลดบุคลากรถึง 75% ของอีลอน มัสก์ เป็นสิ่งที่ “ไม่มีทางเป็นไปได้” และก็จะก่อให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์มีความเสี่ยงต่อการเช็ดกแฮกแล้วก็เข้าถึงรายละเอียดที่ไม่เหมาะสมได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ฌอน เอ็ดเจ็ตต์ นิติกรของทวิตเตอร์ได้แจ้งต่อบุคลากรว่า บริษัทยังมิได้รับการรับรองเรื่องแนวทางของอีลอน มัสก์ ส่วนแผนลดบุคลากร 25% ของบริษัทเองในช่วงเวลานี้ถูกยับยั้งชั่วครั้งคราว กระทั่งดีลการค้าขายธุรกิจจะหมด ข้างหลังมีข่าวสารดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ระบบการติดต่อสื่อสารด้านในหน่วยงานของทวิตเตอร์ก็ลุกเป็นไฟ โดยบุคลากรต่างแสดงความรู้สึกไม่ชอบใจรวมทั้งหดหู่ รวมทั้งให้กำลังใจซึ่งกันและกัน มีแถลงการณ์ว่า อีลอน มัสก์ กับทวิตเตอร์จัปิดดีลสนทนาเสร็จข้างในวันศุกร์หน้า (28 ตุลาคม) ถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี อีลอน มัสก์ จะเปลี่ยนเป็นผู้ครอบครองทวิตเตอร์โดยบริบูรณ์