เงินบาทเปิด 34.82 แข็งค่าสวนทางตลาด รับเม็ดเงินไหลเข้าหนุน-รอปัจจัยใหม่

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.82 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.95 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ สวนทางตลาด เนื่องจากเป็นผลของ flow ที่เข้ามาทำกำไรในช่วงใกล้สิ้นปี เศรษฐกิจ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐยังมีทิศทางแข็งค่า อย่างไรก็ดี ในภาพรวมตลาดยังมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย “เช้านี้บาทแข็งค่าสวนทางตลาด เป็นผลจากมี flow เข้ามาเก็งกำไร แต่ทิศทางบาทวันนี้ คาดว่าจะ sideway ไปทางอ่อนค่า และยังไม่มีปัจจัยสำคัญมากนักในวันนี้”นักบริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.70 – 35.00 บาท/ดอลลาร์ สำหรับวันนี้ยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อค่าเงินมากนัก ขณะที่ตลาดติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพรุ่งนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 135.97 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 137.21/22 เยน/ดอลลาร์เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0599 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ1.0615/0618 ดอลลาร์/ยูโรอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.010 บาท/ดอลลาร์“นายกฯ” แฮปปี้ “World Bank” ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 65 จีดีพีขยายตัวร้อยละ 4.5 สูงกว่าช่วงก่อนโควิดระบาดฟื้นตัวเร็วเกินคาด มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง“จุรินทร์” การันตีส่งออกไทยปีนี้โตแน่ 7% ส่วนปี 2566 ยังมั่นใจขยายตัวได้เป็นบวก แม้เจอมรสุมเศรษฐกิจโลกมีปัญหาด้านกรมการค้าต่างประเทศกางแผนงานปีหน้า ลุยเข็น “ข้าว-มันสำปะหลัง” เจาะตลาดใหม่เพิ่มรายได้ หนุนผู้ประกอบการใช้ FTA-RCEP รัฐ-เอกชนโหม ‘เคานต์ดาวน์’ ลุ้น ‘ช้อปดีฯ-เที่ยวด้วยกัน’ หนุน | กรุงเทพธุรกิจ “ททท.” ผนึกภาคเอกชนจัดเต็มอีเวนต์ส่งท้ายปี “เคานต์ดาวน์ 2023” ในกรุงเทพฯ หัวเมืองท่องเที่ยว กระตุ้นกำลังซื้อ รับเทรนด์ “เที่ยวล้างแค้น” หลังอั้น นาน 3 ปี ด้าน “อิมแพ็ค” เผยยอดจองงานแสดงสินค้า ประชุม คอนเสิร์ต ไตรมาสแรก ปีหน้าพุ่ง 146 งาน “อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ” อีเวนต์ปีนี้ฟื้น 40% หวังปีหน้ากลับโหมดปกติจับตา ครม.เคาะแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ ชงช้อปดีมีคืน 4 หมื่นบาทต่อคน คู่ต่อมาตรการ เราเที่ยวด้วยกัน เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 44.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 46.4 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว และหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน

เงินบาทเปิด 34.82 แข็งค่าสวนทางตลาด รับเม็ดเงินไหลเข้าหนุน-รอปัจจัยใหม่

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่แล้ว

ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีหน้า และอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4.8% ในปีหน้า ก่อนลดลงสู่ราว 4.4% ภายในสิ้นปี 2566 ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า ทันทีที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดแตะระดับสูงสุด อัตราดอกเบี้ยอาจจะอยู่ที่ระดับนั้นไปจนถึงปี 2567นักลงทุนจับตาธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางจีนจะตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.65% และตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ระดับ 4.30% นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า BOJ จะยังคงเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ประกาศปิดโรงเรียนส่วนใหญ่ในวันนี้ (19 ธ.ค.) เนื่องจากความกังวลว่า ข่าวเศรษฐกิจ การยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนธ.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย., ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2565, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จาก Conference Board, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน